วิ่งรถร่วมบริษัทไหนดี สำหรับใครที่กำลังมองหาช่องทางสร้างรายได้ด้วยการขับรถส่งของ หรืออยากเริ่มต้นธุรกิจขนส่งของตัวเอง บทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึกเรื่องการ “วิ่งรถร่วม” ว่าคืออะไร และมีบริษัทไหนบ้างที่น่าสนใจ พร้อมข้อดี-ข้อเสีย เพื่อให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
วิ่งรถร่วมคืออะไร?
การวิ่งรถร่วม หรือ รถร่วมบริการ คือการที่เจ้าของรถบรรทุก หรือรถกระบะขนส่ง (ทั้งรถส่วนตัวและรถบริษัท) เข้าร่วมเป็นพาร์ทเนอร์กับบริษัทขนส่งต่างๆ เพื่อรับงานและวิ่งงานส่งสินค้าตามที่บริษัทจัดหาให้ โดยมีข้อดีหลักคือคุณไม่ต้องหาลูกค้าเอง เพราะบริษัทจะเป็นผู้จัดการเรื่องงานให้ทั้งหมด
ข้อดีของการวิ่งรถร่วม
- มีงานสม่ำเสมอ: บริษัทขนส่งจะมีฐานลูกค้าอยู่แล้ว ทำให้คุณมีโอกาสได้งานวิ่งอย่างต่อเนื่อง ไม่ต้องกังวลเรื่องรายได้ที่ไม่แน่นอน
- ลดความเสี่ยง: คุณไม่ต้องลงทุนทำการตลาดหรือหาลูกค้าเอง ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงและค่าใช้จ่ายในการดำเนินธุรกิจ
- กำหนดเวลาทำงานได้: หลายบริษัทมีความยืดหยุ่นสูง ทำให้คุณสามารถเลือกรับงานหรือวางแผนการทำงานได้ตามต้องการ
- รายได้ดี: หากคุณขยันและมีเส้นทางวิ่งประจำ รายได้จากการวิ่งรถร่วมถือว่าคุ้มค่าและสามารถสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำได้
วิ่งรถร่วมกับบริษัทไหนดี?
ปัจจุบันมีบริษัทขนส่งมากมายที่เปิดรับรถร่วมบริการ แต่ละแห่งก็มีข้อดีและข้อกำหนดที่แตกต่างกันไป ลองพิจารณาจากรายชื่อเหล่านี้ได้เลย
1. Lalamove
- จุดเด่น: มีแอปพลิเคชันที่ใช้งานง่าย เหมาะสำหรับรถทุกประเภทตั้งแต่รถมอเตอร์ไซค์, รถยนต์, รถกระบะ ไปจนถึงรถบรรทุกขนาดใหญ่ มีงานวิ่งจำนวนมากในเขตเมืองและปริมณฑล
- ประเภทรถ: มอเตอร์ไซค์, รถเก๋ง, รถกระบะ, รถกระบะตู้ทึบ, รถ 6 ล้อ, รถ 10 ล้อ
- เหมาะกับ: ผู้ที่ต้องการความยืดหยุ่นสูง สามารถเลือกรับงานและเวลาทำงานได้เอง
2. SCG Express (ขนส่งสินค้าขนาดใหญ่)
- จุดเด่น: เป็นบริษัทขนส่งที่น่าเชื่อถือ มีมาตรฐานสูง มีงานวิ่งหลากหลายประเภท โดยเฉพาะงานขนส่งสินค้าขนาดใหญ่และงานเหมา ทำให้ได้ค่าตอบแทนดี
- ประเภทรถ: รถกระบะ, รถ 4 ล้อ, รถ 6 ล้อ, รถ 10 ล้อ
- เหมาะกับ: ผู้ที่มีรถขนาดใหญ่ ต้องการทำงานกับบริษัทที่มีความมั่นคงและมีระบบที่ดี
3. Shipjung
- จุดเด่น: แพลตฟอร์มที่รวบรวมงานขนส่งจากบริษัทต่างๆ เข้ามาไว้ด้วยกัน ทำให้คุณมีโอกาสเลือกงานที่หลากหลายมากขึ้น มีงานทั้งจากบริษัทขนาดใหญ่และบริษัท SME
- ประเภทรถ: รถกระบะ, รถ 4 ล้อ, รถ 6 ล้อ
- เหมาะกับ: ผู้ที่ต้องการทางเลือกในการรับงานที่หลากหลาย ไม่ยึดติดกับบริษัทใดบริษัทหนึ่ง
4. DHL Express
- จุดเด่น: เป็นบริษัทระดับโลกที่มีชื่อเสียง มีงานวิ่งจำนวนมากและระบบจัดการงานที่เป็นมืออาชีพ ค่าตอบแทนสูงกว่าบางบริษัท
- ประเภทรถ: รถกระบะ, รถตู้
- เหมาะกับ: ผู้ที่มองหาความมั่นคงและรายได้ที่สูง ต้องการทำงานกับบริษัทที่มีมาตรฐานสากล
5. DINOMOVE
จุดเด่น: เป็นบริษัทขนส่งที่น่าเชื่อถือ มีมาตรฐานสูง มีงานวิ่งหลากหลายประเภท โดยเฉพาะงานขนส่งสินค้าขนาดใหญ่และงานเหมา ทำให้ได้ค่าตอบแทนดี
วิธีการสมัครวิ่งรถร่วม
ขั้นตอนการสมัครโดยทั่วไปจะคล้ายคลึงกันในแต่ละบริษัท ดังนี้:
- เตรียมเอกสาร: เช่น สำเนาบัตรประชาชน, สำเนาทะเบียนบ้าน, สำเนาใบขับขี่ประเภท ท.2 (หากเป็นรถบรรทุก), สำเนาทะเบียนรถ และเอกสารอื่นๆ ตามที่บริษัทกำหนด
- ติดต่อบริษัท: เข้าไปที่เว็บไซต์ของบริษัทที่คุณสนใจ หรือติดต่อฝ่ายบุคคลเพื่อสอบถามรายละเอียดการสมัคร
- ตรวจสอบคุณสมบัติ: บริษัทจะตรวจสอบคุณสมบัติของรถและเอกสารของคุณ
- เข้ารับการอบรม: บางบริษัทอาจมีการอบรมการใช้แอปพลิเคชันหรือกฎระเบียบต่างๆ ก่อนเริ่มงาน
สรุปแล้ว วิ่งรถร่วมกับบริษัทไหนดี?
คำตอบที่ดีที่สุดคือ บริษัทที่เหมาะสมกับคุณมากที่สุด โดยให้พิจารณาจากปัจจัยเหล่านี้:
- ประเภทรถที่คุณมี: รถยนต์, รถกระบะ, หรือรถบรรทุกขนาดใหญ่
- พื้นที่ที่คุณต้องการวิ่ง: ในเมือง หรือต่างจังหวัด
- ความยืดหยุ่นในการทำงาน: ต้องการทำงานแบบมีเวลาแน่นอน หรือสามารถเลือกเวลาได้เอง
- ค่าตอบแทนที่คาดหวัง: แต่ละบริษัทมีอัตราค่าจ้างที่แตกต่างกัน
การหาข้อมูลและติดต่อสอบถามกับหลายๆ บริษัท จะช่วยให้คุณเห็นภาพรวมและตัดสินใจได้ดีที่สุด ขอให้คุณโชคดีกับการเริ่มต้นเส้นทางการวิ่งรถร่วมครับ!